หมวดนั่งเล่น > บทความดีๆ ทั้งหลาย

ตำนานไพ่ลามะทิเบต และความหมายของไพ่แต่ละใบ

(1/5) > >>

บูเช็คเทียน:
พระลามะทิเบตในทิเบตมีอยู่ด้วยกัน 3 นิกายหลัก

1. นิกายเกลุก - เป็นนิกายที่เคร่งครัดมาก สวมหมวกสีเหลือง ซึ่งเป็นนิกายเดียวกับองค์ดาไลลามะ

2. นิกายสากตะ - เป็นนิกายที่ห่มจีวรสีเหลืองก้ได้ หรือสีน้ำตาลก้ได้ มีภรรยาได้ สวมหมวกสีแดง

3. นิกายบอนปะ - สวมหมวกสีดำ นิยมเชื่อเรื่องอำนาจเร้นลับ จิตวิญญาณ และเครื่องรางมากๆ


ไพ่นี้ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ไพ่ แต่อยู่ที่จิตวิญญาณของผู้พยากรณ์ และจิตวิญญาณของผู้ที่เดินเข้ามาให้เราพยากรณ์ต่างหาก


เนื่องจากศาสนาพุทธแบบวัชรญาณของทิเบตมีเรื่องของฮินดูเข้ามาผสมผสานด้วย โดยเฉพาะนิกายหมวกดำนี้จะค่อนข้างมากกว่าลัทธิ์อื่นๆ ของวัชรญาณของทิเบต ไพ่พยากรณ์จึงมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า

เนื่องจากมีมีลามกลุ่มหนึ่งเดินทางไปตามหิมาลัยไปจนถึงอินเดีย เมื่อเดินทางใกล้อินเดียแล้วได้พบกับกลุ่มคนเร่ร่อน หรือที่เรียกว่า ฮิบบรู เป็นพวกที่เชื่อในเรื่องของการพยากรณ์มาก และต่างก้ได้ให้ความเคารพทักทายกับลามะ จากนั้นฮิบบรูได้เอาไพ่ขึ้นมาสำรับหนึ่งพยากรร์แก่ลามะ


เมื่อท่านลามะได้รับคำพยากรณ์แล้วต่างก็ทึ่งมากจึงได้ขอศึกษาเรื่องของไพ่พยากรณ์ ลามะรูปหนึ่งได้จดจำวิธีการได้พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนความรู้กันและกันกับฮิบบรู หลังจากเสร็จกิจจากอินเดีย ก็ได้ทำไพ่ขึ้นมาสำรรับหนึ่ง แล้วอาศัยหลักวิชาในแนวเดียวกันที่ได้มาจากฮิบบรูนั่นเอง

รูปแบบหน้าไพ่หลักจะมี 12 ใบ นอกนั้นอีก 9 ใบ จะเป็นไพ่เสริม รวมเป็น 21 ใบ


วันนี้ขอเล่าแค่ 1 ใบ กับไพ่หมายเลข 1

1. ไพ่พระราชวังโปรตาลา

เป็นพระราชวังที่ประทับประจำขององค์ดาไลลามะมาแล้วนับพันปี ที่นี่นอกจากจะเป็นพระราชวังแล้วก็ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของคุณสงฆ์ของลามะ และเป็นที่ว่าราชการรวมถึงเป็นสถานที่สำหรับตลกู (ที่ปรึกษาองค์ทะไลลามะด้วย)


ความหมาย - คือท่านกำลังจะได้พบกับความสุข ความสบายในเร็ววันนี้




บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 2 ไพ่หน้ากากกิเลส





เป็นการแสดงในเชิงธรรมชนิดของลามะทิเบต กิเลสในที่นี้หมายถึงกิเลสทั้งปวง อาจจะรวมไปถึงในเรื่องของความรัก ความโลภ และคววมโกรธ ความหลงด้วย


ความหมาย ของไพ่ใบนี้คือ  มีภาวะอยากจะได้อยากจะทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเหลือล้น

- ใครได้ไพ่ใบนี้ก็คือ บ่งบอกว่าตอนนี้คุณมีกิเลสต่างๆ มากมาย เช่น ถ้าถามเรื่องรัก ก็แปลกำลังมีความรัก 

ถ้าคุยกับใครอยู่ ก็แปลว่ากำลังชอบเขาอย่างมากกกกกกกกกกกกกกมายทีเดียว


บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 3   องค์เทวะในพุทธศาสนามหายาน

นับว่าเป็นเทวะในเชิงแห่งโพธิสัตว์ที่ชอบช่วยเหลือมนุษย์และมีความเมตตาอย่างสูงยิ่ง

ความหมายของไพ่ใบนี้คือ จะได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่

- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะนับว่าผุ้ใหญ่เมตตาเอ็นดู รวมไปถึงหมายถึงความรักหญิงชายอีกด้วย

ถ้าถามว่า คนที่เราคุยด้วยชอบเราไหม และเราได้ไพ่ใบนี้ ก็แปลว่า คุณสมหวังแล้วนะ คนที่คุณคุยด้วย ก็รักชอบคุณเหมือนกัน

บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 4   ไพ่เทพแห่งแสงสว่าง

องค์เทพในที่นี้ หมายถึงเทพที่กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่บนสวรรค์  เวลาที่ใครอธิฐานร้องขอให้ช่วยเหลือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  เทพองค์นี้จะได้ยินก่อนเป็นองค์แรก และสิ่งใดที่ไม่เกินกรรมของแต่ละบคคล ท่านก็จะอวยพรให้สมปรารถนา

ความหมายของไพ่ใบนี้คือ   สิ่งที่หวังเอาไว้ใกล้ที่จะสำเร็จและเป็นจริงในเร็ววันนี้ หรือจะเรียกว่า ไพ่สมหวังแต่ต้องรอคอย

- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะสมหวังในอนาคต ช้าเร็วขึ้นอยู่กับผลบุญและการกระทำของคุณ ผลสำเร็จช้ากว่าไพ่บางใบที่เปิดเจอคือสำเร็จเลยได้แน่ แต่ใบนี้ยังต้องรอ เหมือนปลูกต้นไม้ รอการเติบโตแบบใช้ระยะเวลา



 




บูเช็คเทียน:

ไพ่หมายเลข 5   ไพ่ธงมนตรา

ธงมนตราญาณ หรือธงมนต์ ชาวธิเบตจะนิยมห้อยไว้ตามบ้าน ทำขึ้นเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย  ทุกครั้งที่ลมพัดสะบัดมา จะทำให้ธงนี้ปลิวไสว
พลิ้วไปเรื่อยๆ  ทุกครั้งที่ลมพัดพลิ้วนั้น ถือว่ามนตราได้ร่ายมนต์ให้เสมอ

ความหมายของไพ่ใบนี้คือ   ต้องสงบจิตใจให้เย็นลงบ้าง เพื่อที่จะขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากจิตใจ เพื่อรอรับสิ่งใหม่ได้ดีกว่า

- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะมีความทุกข็ใจ ไม่สบายกายอย่างหนัก ถ้าป่วยกายก็ล้มหมอนนอนสื่อ ถ้าป่วยใจก็เข้าขั้นใจหมดแรง เสียศูนย์ บางคนอาการหนักก็หมดอาลัยตายอยากได้ และคนที่ได้ใบนี้มักจะเข้าวัดเพื่อสลายทุกข์ในที่สุด เป็นคนที่ยึดศาสนาเป้นที่พึ่งเมื่อคิดจะให้ทุกข์มลาย



 




นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version