หมวดนั่งเล่น > บทความดีๆ ทั้งหลาย
ตำนานไพ่ลามะทิเบต และความหมายของไพ่แต่ละใบ
บูเช็คเทียน:
พระลามะทิเบตในทิเบตมีอยู่ด้วยกัน 3 นิกายหลัก
1. นิกายเกลุก - เป็นนิกายที่เคร่งครัดมาก สวมหมวกสีเหลือง ซึ่งเป็นนิกายเดียวกับองค์ดาไลลามะ
2. นิกายสากตะ - เป็นนิกายที่ห่มจีวรสีเหลืองก้ได้ หรือสีน้ำตาลก้ได้ มีภรรยาได้ สวมหมวกสีแดง
3. นิกายบอนปะ - สวมหมวกสีดำ นิยมเชื่อเรื่องอำนาจเร้นลับ จิตวิญญาณ และเครื่องรางมากๆ
ไพ่นี้ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ไพ่ แต่อยู่ที่จิตวิญญาณของผู้พยากรณ์ และจิตวิญญาณของผู้ที่เดินเข้ามาให้เราพยากรณ์ต่างหาก
เนื่องจากศาสนาพุทธแบบวัชรญาณของทิเบตมีเรื่องของฮินดูเข้ามาผสมผสานด้วย โดยเฉพาะนิกายหมวกดำนี้จะค่อนข้างมากกว่าลัทธิ์อื่นๆ ของวัชรญาณของทิเบต ไพ่พยากรณ์จึงมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า
เนื่องจากมีมีลามกลุ่มหนึ่งเดินทางไปตามหิมาลัยไปจนถึงอินเดีย เมื่อเดินทางใกล้อินเดียแล้วได้พบกับกลุ่มคนเร่ร่อน หรือที่เรียกว่า ฮิบบรู เป็นพวกที่เชื่อในเรื่องของการพยากรณ์มาก และต่างก้ได้ให้ความเคารพทักทายกับลามะ จากนั้นฮิบบรูได้เอาไพ่ขึ้นมาสำรับหนึ่งพยากรร์แก่ลามะ
เมื่อท่านลามะได้รับคำพยากรณ์แล้วต่างก็ทึ่งมากจึงได้ขอศึกษาเรื่องของไพ่พยากรณ์ ลามะรูปหนึ่งได้จดจำวิธีการได้พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนความรู้กันและกันกับฮิบบรู หลังจากเสร็จกิจจากอินเดีย ก็ได้ทำไพ่ขึ้นมาสำรรับหนึ่ง แล้วอาศัยหลักวิชาในแนวเดียวกันที่ได้มาจากฮิบบรูนั่นเอง
รูปแบบหน้าไพ่หลักจะมี 12 ใบ นอกนั้นอีก 9 ใบ จะเป็นไพ่เสริม รวมเป็น 21 ใบ
วันนี้ขอเล่าแค่ 1 ใบ กับไพ่หมายเลข 1
1. ไพ่พระราชวังโปรตาลา
เป็นพระราชวังที่ประทับประจำขององค์ดาไลลามะมาแล้วนับพันปี ที่นี่นอกจากจะเป็นพระราชวังแล้วก็ยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของคุณสงฆ์ของลามะ และเป็นที่ว่าราชการรวมถึงเป็นสถานที่สำหรับตลกู (ที่ปรึกษาองค์ทะไลลามะด้วย)
ความหมาย - คือท่านกำลังจะได้พบกับความสุข ความสบายในเร็ววันนี้
บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 2 ไพ่หน้ากากกิเลส
เป็นการแสดงในเชิงธรรมชนิดของลามะทิเบต กิเลสในที่นี้หมายถึงกิเลสทั้งปวง อาจจะรวมไปถึงในเรื่องของความรัก ความโลภ และคววมโกรธ ความหลงด้วย
ความหมาย ของไพ่ใบนี้คือ มีภาวะอยากจะได้อยากจะทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเหลือล้น
- ใครได้ไพ่ใบนี้ก็คือ บ่งบอกว่าตอนนี้คุณมีกิเลสต่างๆ มากมาย เช่น ถ้าถามเรื่องรัก ก็แปลกำลังมีความรัก
ถ้าคุยกับใครอยู่ ก็แปลว่ากำลังชอบเขาอย่างมากกกกกกกกกกกกกกมายทีเดียว
บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 3 องค์เทวะในพุทธศาสนามหายาน
นับว่าเป็นเทวะในเชิงแห่งโพธิสัตว์ที่ชอบช่วยเหลือมนุษย์และมีความเมตตาอย่างสูงยิ่ง
ความหมายของไพ่ใบนี้คือ จะได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่
- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะนับว่าผุ้ใหญ่เมตตาเอ็นดู รวมไปถึงหมายถึงความรักหญิงชายอีกด้วย
ถ้าถามว่า คนที่เราคุยด้วยชอบเราไหม และเราได้ไพ่ใบนี้ ก็แปลว่า คุณสมหวังแล้วนะ คนที่คุณคุยด้วย ก็รักชอบคุณเหมือนกัน
บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 4 ไพ่เทพแห่งแสงสว่าง
องค์เทพในที่นี้ หมายถึงเทพที่กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่บนสวรรค์ เวลาที่ใครอธิฐานร้องขอให้ช่วยเหลือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เทพองค์นี้จะได้ยินก่อนเป็นองค์แรก และสิ่งใดที่ไม่เกินกรรมของแต่ละบคคล ท่านก็จะอวยพรให้สมปรารถนา
ความหมายของไพ่ใบนี้คือ สิ่งที่หวังเอาไว้ใกล้ที่จะสำเร็จและเป็นจริงในเร็ววันนี้ หรือจะเรียกว่า ไพ่สมหวังแต่ต้องรอคอย
- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะสมหวังในอนาคต ช้าเร็วขึ้นอยู่กับผลบุญและการกระทำของคุณ ผลสำเร็จช้ากว่าไพ่บางใบที่เปิดเจอคือสำเร็จเลยได้แน่ แต่ใบนี้ยังต้องรอ เหมือนปลูกต้นไม้ รอการเติบโตแบบใช้ระยะเวลา
บูเช็คเทียน:
ไพ่หมายเลข 5 ไพ่ธงมนตรา
ธงมนตราญาณ หรือธงมนต์ ชาวธิเบตจะนิยมห้อยไว้ตามบ้าน ทำขึ้นเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ทุกครั้งที่ลมพัดสะบัดมา จะทำให้ธงนี้ปลิวไสว
พลิ้วไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ลมพัดพลิ้วนั้น ถือว่ามนตราได้ร่ายมนต์ให้เสมอ
ความหมายของไพ่ใบนี้คือ ต้องสงบจิตใจให้เย็นลงบ้าง เพื่อที่จะขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากจิตใจ เพื่อรอรับสิ่งใหม่ได้ดีกว่า
- ใครได้ไพ่ใบนี้ ก็จะมีความทุกข็ใจ ไม่สบายกายอย่างหนัก ถ้าป่วยกายก็ล้มหมอนนอนสื่อ ถ้าป่วยใจก็เข้าขั้นใจหมดแรง เสียศูนย์ บางคนอาการหนักก็หมดอาลัยตายอยากได้ และคนที่ได้ใบนี้มักจะเข้าวัดเพื่อสลายทุกข์ในที่สุด เป็นคนที่ยึดศาสนาเป้นที่พึ่งเมื่อคิดจะให้ทุกข์มลาย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version